วันนี้ 3 ก.ค. 2566 เป็นวันแรกที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการ "รถไฟฟ้าสายสีเหลือง"ประกาศเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ด้วยการจัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้น 15 บาท สูงสุดไม่เกิน 45 บาท

โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี

เช็กเลย! รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ผ่านที่ไหนบ้าง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง คาดเปิดให้บริการมิ.ย.66

ซึ่งรถไฟฟ้ารูปแบบโมโนเรลสายแรกของประเทศไทย หลังจากเปิดให้ประชาชนทดลองใช้งานเดินรถเสมือนจริง ฟรีเป็นระยะเวลา 1 เดือน แล้วได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีมากๆ มีผู้ใช้บริการแตะระดับ 92,000คนต่อเที่ยว ซึ่งภาพรวมประชาชนที่มาใช้บริการวันนี้ แม้ว่าจะเริ่มเก็บค่าบริการแล้ว บรรยากาศในชั่วโมงเร่งด่วน ยังคงมีผู้ใช้บริการหนาแน่นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ด้านผู้ใช้งานหลายคนให้ข้อมูลว่า ด้วยตัวทำเลของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองค่อนข้างดี สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย อยู่ในเส้นถนนหลักที่รถติดมากๆ การใช้บริการรถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าไปรถติดอยู่บนท้องถนน พอชีวิตกำหนดเวลาเดินทางได้ชัดเจน เทียบกับค่าโดยสารที่ไม่เกิน 45 บาท ก็ถือว่าอยู่ในระดับรับได้

สำหรับอัตราค่าโดยสารที่จัดเก็บ 15-45 บาท จะมีส่วนลด ให้กับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร รวมถึงผู้พิการ ได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ได้ใช้บริการฟรี ส่วนผู้สูงอายุอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย จะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 50% ของอัตราค่าโดยสารปกติ

ส่วนท่านใดที่นำรถยนต์มาจอดและเดินทางต่อด้วยสายสีเหลือง ก็จะเริ่มเก็บเงินค่าจอดรถเช่นกัน ทั้งบริเวณสถานีลาดพร้าว ที่เก็บ 2 ชั่วโมง 15 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า ชั่วโมงละ 50 บาท) และอาคารจอดรถสถานีศรีเอี่ยม ชั่วโมงละ 5 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า ชั่วโมงละ 20 บาท)

อีกสิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือ รถไฟฟ้าสายนี้เปิดให้ชำระเงินได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ตู้ขายบัตรโดยสาร บัตรแรบบิท และบัตร EMV Contact less ทั้งรูปแบบ Visa กับ MasterCard ซึ่งบัตรประเภทนี้ ผู้เดินทางระหว่างสายสีน้ำเงินกับสายสีเหลือง จะได้รับส่วนลดค่าแรกเข้า 14-15 บาท หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งขาไปและขากลับ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าแรกเข้าได้ 29 บาทต่อวัน